สุขภาพ

เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณวันนี้

สูตรลดความอ้วน (สูตรที่5)

สูตรที่ 5 สูตร 7 วัน (สูตร 2 ) กินง่ายมากๆ หาซื้อได้ไม่ต้องทำ

** วันจันทร์ **
เช้า - - ไข่ดาว 1 ฟอง + ไก่ทอด 1 ชิ้น (ไม่เอาหนัง)
กลางวัน - - สะโพกไก่ย่าง 1 ชิ้น + เกาเหลา 1 ชาม
เย็น - - สลัดผัก + กาแฟใส่คอฟฟี่เมตไม่เกิน 1 ช้อนและน้ำตาลไม่เกิน 1/2 ช้อนชา


** วันอังคาร **
เช้า - - ไส้กรอก 2 ชิ้น + สลัดผัก 1 จาน
กลางวัน - - แกงจืดไก่ 1 ถ้วย + เนื้อสัตว์ผัดผัก 1 จาน
เย็น - - น้ำพริกกะปิ + หน่อไม้ + ผักจิ้ม + ไก่ตุ๋นมะดาวดอง 1 ถ้วย


** วันพุธ **
เช้า - - ต้มจืดเลือดหมู ใส่ผักกาดหอม ตำลึง 1 ถ้วย
กลางวัน - - เกาเหลาเนื้อเปื่อย 1 ชาม
เย็น - - ปลากระป๋องยำ กินกับกะหล่ำปลีสด (แทนข้าว) และแกงจืดตำลึง 1 ถ้วย

** วันพฤหัส **
เช้า - - ไข่ดาว 1 ฟอง + แฮม 1 ชิ้น
กลางวัน - - เนื้อสัตว์ตุ๋น 1 ถ้วย กินกับถั่วฝักยาว หรือถั่วแขกลวก 1 ถ้วย
เย็น - - น้ำพริกหอยแมลงภู่ กินกับแตงกวาหรือกะหล่ำปลี

** วันศุกร์ **
เช้า - - ไข่เจียวหมูสับ 1 ฟอง + ถั่วฝักยาว หรือถั่วแขกลวก 1 ถ้วย
กลางวัน - - ไก่ตุ๋น 2 ขา + ผักสด 1 จาน
เย็น - - เนื้อสัตว์ผัดกะเพรา 1 จาน

** วันเสาร์ **
เช้า - - แฮม 2 ชิ้น
กลางวัน - - เกาเหลา 1 ชาม + ส้มตำ 1 จาน
เย็น - - ชะอมชุบไข่ทอด 1 ฟอง + ปลาทูทอด 1 ตัว + ผักสด

** วันอาทิตย์ **
เช้า - -เนื้อไก่ย่าง 1 ชิ้น + ผักสด
กลางวัน - - สลัดเนื้อสัน 1 จาน + ไก่ตุ๋น 1 ถ้วย
เย็น - - ปลาแป๊ะซะ 1 ตัว + ต้มจืด 1 ถ้วย

สูตรลดความอ้วน (สูตรที่4)

สูตรที่ 4 สูตร 24 วัน ลดได้ 6-8 กก.

โดยจะแบ่งช่วงเป็น4 ช่วงคือ 9 วัน 3 วัน 9 วัน 3 วันค่ะ

ช่วงที่1 (9 วันแรก)
มื้อเช้า ให้ทานส้มโอค่ะ ทานได้มากตามที่ต้องการ + ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ให้ทานเนื้อสัตว์ล้วนๆ โดยไม่มีข้าวหรือผักผลไม้ มาแซมด้วย ใครอยากจะทานสเต็กก็ได้ไม่ขัดข้อง แล้วก็จะทานมากเท่าไหร่ก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องเป็นเนื้อสัตว์ชนิดเดียวเท่านั้น ไม่ควรปนเนื้อสัตว์หลายๆชนิดในมื้อเดียวกัน เพราะจะทำให้ย่อยยาก และควรจะเข้าใจไว้ด้วยว่า พวกเนื้อหมู เนื้อวัว จะมีไขมันมากกว่าพวกเนื้อปลา และอาหารพวก ต้ม นึ่ง ย่าง จะดีกว่าพวก ทอด หรือผัด
มื้อเย็น เป็นมื้อที่บางคนอาจจะบ่นว่ายาก เพราะว่าเขาให้กินแต่ข้าวกล้องล้วนๆ ไม่มีเนื้อหรือผักปนเลย แต่เขาให้ใส่ซ๊อสได้ เพราะฉะนั้น ก็นี่เลย ข้าวกล้องผัดกระเทียม ข้าวกล้องผัดมันปู ข้าวกล้องผัดน้ำพริก ตอนแรกที่ใช้สูตรนี้ ดิฉันก็ทำตามอย่างเคร่งครัดค่ะ พอตอนหลัง (คราวหลัง) ก็เริ่มแหวกกฎนิดหน่อย คือ กินข้าวกล้อง(ต้ม) กับ ผักได้ 1 อย่างค่ะ ไม่เป็นไร เพราะลองมาแล้ว ทานได้เท่าที่ต้องการค่ะ

ช่วงที่ 2 (3 วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ + ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
มื้อเย็น ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
ในช่วง 3 วันนี้ หลังจากมื้อเช้าแล้ว คุณจะทานผลไม้อะไรก็ได้ จะทานทุเรียนก็ได้ ไม่มีใครว่า ไม่ต้องกลัวว่าทานทุเรียนแล้วจะทำให้น้ำหนักขึ้น

ช่วงที่ 3 (9วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ + ชา/กาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผักทุกอย่าง มากเท่าที่ต้องการ ไม่ปนเนื้อสัตว์หรือข้าว
มื้อเย็น ผักทุกอย่าง มากเท่าที่ต้องการ ไม่ปนเนื้อสัตว์หรือข้าว
จะกินเป็นผักต้ม/ผักสดจิ้มน้ำพริก หรือต้มจืดผักก็ได้ แกงเลียงก็ดี แต่ดิฉันก็ไม่วายโกงสูตรนิดๆ บางทีก็กินส้มตำไทยใส่ปู (ปนปูกับกุ้งมานิดหน่อย) หรือไม่ก็ ผักสดราดน้ำยาขนมจีน (ใช้น้ำยาป่า) ฮิ ฮิ

ช่วงที่ 4 (3 วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ+ชา/กาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
มื้อเย็น ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ

สูตรลดความอ้วน (สูตรที่3)

สูตรที่ 3 สูตร 7 วัน (สูตร 1 ) ลดได้ราว 5 กก.

วันที่ 1 กินผลไม้ทุกชนิดได้เท่าที่ต้องการ ยกเว้นกล้วย กินซุปให้มากๆด้วย
เครื่องดื่มที่สามารถดื่มได้คือ ชา น้ำแครนเบอรี่ และน้ำเปล่า
* เมืองไทยคงหาน้ำแครนเบอรี่ยาก ลองดูเป็นอย่างอื่นละกันค่ะ หรืองดไปเลยก็คงไม่เป็นไร ดื่มน้ำเปล่าดีกว่าอยู่แล้ว

วันที่2 กินผักทุกชนิดได้เท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะสด ดิบ หรือสุก พยายามกินพวกผักใบเขียว เลี่ยงผักจำพวกถั่วเมล็ดแห้ง กินซุปให้มากๆ แต่งดผลไม้ วันนี้ให้รางวัลกับตัวเองด้วยมันอบพร้อมเนย 1 หัว

วันที่3 กินผัก + ผลไม้ + ซุปได้มากเท่าที่ต้องการ แต่งดมันอบ

วันที่4 กินกล้วยให้ได้ 8 ผล และดื่มนมไขมันต่ำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะได้ รวมถึงซุปด้วย

วันที่5 กินเนื้อวัวได้ 300-600 กรัม และมะเขือเทศ1กระป๋อง หรือมะเขือเทศสด 6 ผล
ดื่มน้ำอย่างน้อย 6 แก้วเพื่อชะล้างกรดยูริคจากร่างกาย กินซุปอย่างน้อย 1 หน
* สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อวัวให้ดู ** ข้างท้ายค่ะ

วันที่6 กินผักกับเนื้อวัวได้เท่าที่ต้องการ งดมันอบ กินซุปอย่างน้อย 1 หน

วันที่7 กินข้าวกล้อง + ผัก + น้ำผลไม้ที่ไม่ได้ปรุงแต่งรสหวานเพิ่ม กินได้เท่าที่ต้องการ และอย่าลืมกินซุปด้วย

เมื่อจบวันที่7 หากคุณไม่ได้โกงตัวเอง น้ำหนักคุณจะลดไปได้ 4.5 - 8 กิโล หากต้องการลดเพิ่ม ให้เว้นระยะสักสองวันก่อนจะเริ่มใหม่จากวันที่ 1 สามารถทำไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะเบื่อ

อาหารต้องห้าม ขนมปัง ของทอด แอกอฮอล์ มันฝรั่ง ( เว้นแต่วันที่ระบุไว้ ) น้ำอัดลม

** สำหรับผู้ที่ไม่กินเนื้อวัว สามารถกินไก่ต้มหรือไก่ย่างแทนได้แต่อย่ากินหนัง หากคุณกินปลานึ่งในวันที่5แทนเนื้อวัว ควรกินโปรตีนในวันถัดไปให้มากขึ้น เพื่อชดเชยโปรตีนที่ขาดไป

หากต้องกินยาตามแพทย์สั่ง ก็สามารถกินได้โดยไม่เป็นไร สามารถทำตามสูตรนี้ไปได้เรื่อยๆ

สูตรลดความอ้วน (สูตรที่2)

จุดประสงค์เพื่อปรับปรุงการเผาผลาญอาหารของร่างกาย หลังจากครบ 13 วันแล้วจะรับประทานอาหารได้ตามปกติ น้ำหนักจะไม่ขึ้นมาอีก

วันที่ 1

- มื้อเช้า กาแฟ 1 ถ้วยไม่ใส่น้ำตาล

- มื้อกลางวัน ไข่ไก่ต้มแข็ง 1 ฟอง ผักโขม(หรือผักกวางตุ้ง) 1 กำต้ม มะเขือเทศ 1 ผล

- มื้อเย็น สเต๊กไก่ 200 กรัม (ไก่ย่าง หรือไก่อบห่อกระดาษฟอยด์แทน) น้ำสลัดมะนาว (น้ำมันสลัดผสมน้ำมะนาว) และผลไม้สด 1 ผล (แอปเปิ้ล)

วันที่ 2

- มื้อเช้า เหมือนวันที่ 1

- มื้อกลางวัน แฮมต้ม/อบ 2 ชิ้น โยเกิร์ตรสจืด 1ถ้วย ฝักสลัด (ผักกาดแก้ว ผักกาดหอม)

- มื้อเย็น สเต๊กไก่ 200 กรัม ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว ผลไม้สด 1 ผล

วันที่ 3

- มื้อเช้า กาแฟ 1 ถ้วยใส่น้ำตาล 1 ก้อนและขนมปังปิ้ง 1 แผ่น (เป็นโฮลวีตยิ่งดี)

- มื้อกลางวัน ไข่ต้ม 2 ฟอง แฮม 1ชิ้น ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว

- มื้อเย็น เซลเลอรี่ (คึ่นฉ่ายจีนแทน) ต้ม มะเขือเทศ 1 ผล ผลไม้ 1 ผล

วันที่ 4

- มื้อเช้า เหมือนวันที่ 3

- มื้อกลางวัน น้ำสัมคั้น (ส้มหรือแอปเปิ้ล) หรือผลไม้ โยเกิร์ตรสจืด 1 ถ้วย

- มื้อเย็น ไข่ต้ม 1 ฟอง แครอทสด 1 หัว

วันที่ 5

- มื้อเช้า แครอท 1 หัวใหญ่ราดน้ำมะนาว (หรือทานน้ำมะนาวใส่น้ำอุ่นแยกต่างหาก)

- กลางวัน ปลากระพง200กรัมอบเนยสด 1 ก้อน น้ำมะนาว

- มื้อเย็น สเต๊กไก่ 200 กรัม ผักสลัด เซลเลอรี่สด

วันที่ 6

- มื้อเช้า เหมือนวันที่ 3-4

- มื้อเที่ยง ไข่ต้ม 2 ฟอง แครอทสด 2 หัว

- มื้อเย็น ไก่อบ/ย่าง 200 กรัม ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว

วันที่ 7

- มื้อเช้า ชา 1ถ้วยไม่ใส่น้ำตาล

- มื้อกลางวัน ดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียว

- มื้อเย็น บาบีคิวหมู 200 กรัม ผลไม้ 1 ผล (แอปเปิ้ล)

วันที่ 8 เหมือนวันที่ 1
วันที่ 9 เหมือนวันที่ 2
วันที่ 10 เหมือนวันที่ 3
วันที่ 11 เหมือนวันที่ 4
วันที่ 12 เหมือนวันที่ 5

วันที่ 13

- มื้อเช้า กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย ขนมปังปิ้งแห้ง 1 แผ่น

- มื้อเที่ยง ไข่ต้ม 2 ฟอง แครอทสด 2 หัว

- มื้อเย็น ไก่ 250 กรัม ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว.........

** งดแอลกอฮอล์ เครื่องดื่ม ท๊อฟฟี่ ของหวานทุกชนิด วันที่ 2-3 มืนหัวตาลายโหวงๆ หลังจากนั้นสบายตัว ประหยัดดีด้วย เพราะพยายามไม่ซื้อกินนอกเหนือจากที่ไปสั่งไว้

สูตรลดความอ้วน (สูตรที่1)

สูตรที่ 1 สูตรของ dr. atkin แบบ LOW CARB ที่ฮิตกัน

สุตร induction diet แบบ 14 วันนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งก็วีธิการจาก Dr.Atkin เท่านั้น ยังมีขั้นตอนของการ
รักษาน้ำหนักในระยะยาวเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
- วิธีนี้ ไม่ได้เน้นให้ผอมอย่างเดียว แต่เน้นเรื่องการกินอย่างถูกต้อง ซึ่งอาจเป็นวิธีการที่มีการหักดิบในช่วง
แรก และตอนท้ายก็คือ การกินตามธรรมดาที่เราสามารถทำได้ไม่ยาก

- สูตรนี้ เรียกว่า Low Carb ( คาร์โบไฮเดรทต่ำ ) ไม่ใช่ Low Fat ( ไขมันต่ำ ) อย่างที่เคย ฉะนั้นหากจะซื้อ
ของกิน ต้องดู ฉลากดี ๆ เพราะ Low Fat มักมีส่วนผสมของแป้งเยอะ

- ดื่มน้ำ เยอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

- ออกกำลังกาย ( แข็งใจหน่อย ถ้าจะเริ่มก้าวแรกแล้ว ความสำเร็จก็จะเห็นรำไร )

- ชั่ง นน. และ วัดรอบตัวไว้ เพื่อดูความคืบหน้าของการเปลี่ยนแปลง

- อย่าขี้โกง กับตัวเองนะคะ ทั้ง 14 วัน กินอาหารที่แนะนำเท่านั้น จะมาขอสักมื้อ หรือ สักคำ ก็ไม่ได้ เพราะจะทำ
ให้การหักดิบนี้ไม่สำเร็จ อดทน อดทน และ อดทน ไม่ต้องมีข้อแก้ตัว โอ้ย มีงานเลี้ยง... โอ้ย น้ำท่วม... โอ้ย ฯลฯ

- อย่าปล่อยให้หิว ถึงเวลาก็กิน กินให้อิ่มไปเลย หรือจะแบ่ง มื้ออาหารจาก 3 เป็นมื้อเล็ก ๆ 5-6 ก็ได้( ไม่ต้องอดมื้อเย็น กินเข้าไปเยอะ ๆ )

- เตรียมเมนูล่วงหน้าให้กับตัวเองเลย พรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไปต้องกินอะไรบ้างทั้งสามมื้อ แล้วลงมือเตรียมให้ครบ

- บอกใคร ๆ ว่าคุณกำลังลดความอ้วน ไม่ต้องปิดบัง บอกให้คนใกล้ตัวคุณด้วย ยิ่งคุณต้องเจอประเภท
" มื้อนี้ไม่เป็นไร ไปอดมื้อหน้า " " สวยแล้วไม่ต้องอดหรอก " ให้ตั้งสติให้ดี แล้วบอกว่า " ไม่ค่ะ ขอบคุณ "
ยืนยันให้มั่น เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด

- ไม่แนะนำสำหรับคนที่ไม่แข็งแรง / ผู้หญิงมีครรถ์ หรือเด็กต่ำกว่า 20 นะคะ

- กินวิตามินรวม ร่วมด้วยจะดีค่ะ

- ช่วง 2-3 วันแรก อาจมีอาการมึน ๆ นะคะ เพราะร่างกายกำลังปรับตัว ฉะนั้นสำหรับคนทำงานนอกบ้าน
หากเริ่มสูตรในวันเสาร์อาทิตย์ก็จะดี

- อาหารควรเป็นอาหารที่เตรียมเอง เพราะเราเลือกเองจะล้างได้สะอาดกว่า น้ำมันทอดที่ใหม่กว่า ใช้น้ำมันที่
ดีกว่าแต่หากไม่สะดวก ก็ให้ซื้ออาหารจากร้านหรือยี่ห้อที่ไว้ใจได้เท่านั้น
**อาหารที่ทานได้ตลอด 14 วัน**
ไข่ไก่ ไข่นกกระทา
เนื้อสัตว์ทุกประเภท แกะ หมู ไก่ เนื้อ ปลา ปู กุ้ง หอย ปลาหมึก ไส้กรอก เบคอน แคบหมู ขาหมูทอด
หมูหัน และ อื่น ๆ ไม่ว่าจะติดมัน หรือ ไม่ก็ตาม ย่าง นึ่ง ต้ม ทอด หรือปรุงด้วยอะไรก็ได้ ห้ามมีส่วนผสมของ
น้ำตาลเด็ดขาด
Cheese Edam , Brie, Ricotta Cheddar, Swiss, Blue Cheese, Philadelphia Crè
me Cheese เป็นต้น

น้ำมันทุกประเภท น้ำปลา น้ำส้มสายชู มะนาว และเครื่องปรุงอื่น ๆ ยกเว้นน้ำตาล หรือ เครื่องปรุงที่มีส่วน
ผสมของน้ำตาล
ผักทานได้แต่ผักกาดแก้ว ผักสลัดใบเขียว และผักสีเขียวในปริมาณ 1 ถ้วย ( เวลาตวงไม่อัดแน่นนะคะ )
หรือ 170 กรัม หรือ 6 oz.
อาหารทุกชนิดห้ามใช้ที่เขียนไว้ว่า Low Fat เนื่องจากอาหารไขมันต่ำทุกชนิดมักจะมีส่วนผสมของแป้งอยู่ทั้งสิ้น
Evaporated Milk นมข้นจืดไม่ดัดแปลง ( คาร์เนชั่น ) หรือ whip cream
อาหารที่กล่าวนี้ สามารถทานได้ไม่จำกัดทั้งมื้อและ ปริมาณ เมื่อไรก็ได้ เท่าไรก็ได้
**อาหารที่ต้องห้าม**
นมดังต่อไปนี้ whole milk , skim milk, low fat milk, UHT, Pasteurize, น้ำเต้าหู้ เนื่องจากนมทั้งหลายนี้มีคาร์โบไฮเดรทสูง
กาแฟ ให้พยายามเลี่ยง แต่หากต้องทาน ให้ใช้แบบ caffeine free เนื่องจากคาเฟอินอาจทำให้กระบวนการทางเคมีไม่ได้ผล
ผลไม้ทุกประเภท ไม่ว่าจะมีรสหวานหรือไม่ก็ตาม ล้วนมีน้ำตาลทั้งสิ้น
ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปังทุกอย่าง ข้าวเหนียว มันฝรั่ง เพราะล้วนเป็นคาร์โบไฮเดรต
ขนมหวาน Cake, Cookie, Snack, Chip
น้ำตาล หรืออาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม รวมถึง Glucose, Fructose หรือ น้ำผึ้ง
ผักบางอย่าง เช่น ข้าวโพดอ่อน มะเขือเทศ แครอท หรืออื่น ๆ ที่มีน้ำตาล หรือพืชผักที่ให้รสหวาน
Sauce ที่มีรสหวาน หรือมีแป้งเป็นส่วนผสม เช่น น้ำจิ้มไก่ ซีอิ๊วหวาน ซอสมะเขือเทศ Gravy เป็นต้น

Alcohols ทุกประเภท น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ห้ามหมดเด็ดขาด

**ตัวอย่างรายการอาหาร**
เช้า ไข่ดาว ไข่คน cheddar cheese ,Omelet กับ เบคอน ไส้กรอก แฮม
กลางวัน ไก่ย่าง ขาหมูทอด สเต๊กเนื้อ ไข่เจียวหมูสับ ทอดมัน ( ทำจากเนื้อปลาล้วน ) ลาบ/ น้ำตก หมู หรือไก่
เย็น ปลาหมึกผัดไข่เค็ม หมูหัน ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่
ของว่าง Philadelphia Crème Cheese ผสมกับน้ำตาลเทียม และมะนาว จนเป็นเนื้อเดียวกัน , แคบหมูกับน้ำพริกหนุ่ม
**ข้อควรระวัง**
1. หากท่านตัดสินใจลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ท่านต้องทำติดต่อกันเป็นเวลา 14 วันติดต่อกัน เพื่อให้ร่างกายได้
ปรับสมดุล
2. จะยกเลิกก่อนกำหนดหรือทำเพียงบางมื้อไม่ได้
3. จะมีส่วนผสมของน้ำตาลหรือแป้งรวมทั้งคาร์โบไฮเดรต ในรูปแบบอื่นในมื้ออาหารไม่ได้เลย ตลอด 14 วัน
ยกตัวอย่างเช่น หากทานไก่ย่าง ก็ไม่ทานข้าวเหนียว หรือส้มตำ หากทานไข่ดาวหมูแฮม จะทานกับขนมปังไม่ได้
รวมทั้ง ลูกชิ้น ปูอัด
4. หากน้ำหนักไม่ลดลงเลย แสดงว่าในบางมื้อท่านยังมีส่วนของน้ำตาลหรือกลุ่มอาหารคาร์โบไฮเดรต อยู่
ดังนั้น นอกจากจะลดน้ำหนักไม่ได้แล้ว เท่ากับท่านทำให้กระบวนการเผาผลาญรวน และร่างกายอาจจะ
ใช้กลับไปใช้น้ำตาลในการเผาผลาญเหมือนเดิม แสดงว่า โปรตีน และ ไขมันจำนวนมากที่ท่านบริโภคเข้าไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้ถูกใช้งาน ก็จะกลายเป็น Cholesterol ได้ในที่สุด
5. อย่ากลัวการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากกระบวนการเผาผลาญไขมันไม่ทำให้เกิด Cholesterol
ดังนั้น ท่านจึงไม่ต้องกังวลกับอาหารไขมันสูง แต่ให้ระวังอาหารที่มีน้ำตาลและแป้ง
6. ภายใน 48 ชั่วโมง บางท่านอาจมีอาการวิงเวียน เนื่องจากร่างกายยังหลั่ง Insulin อยู่ แต่หลังจากนั้น
อาการจะหายไป เนื่องจากร่างกายเข้าสู่ระบบ Ketosis คือการนำไขมันมาเป็นพลังงาน
7. ควรตรวจระดับ Ketone ในปัสสาวะหลัง 48 ชั่วโมง โดยซื้อ Ketone Strip มาตรวจ หากพบปัสสาวะมี
สีชมพู แปลว่าร่างกายได้เริ่มนำไขมันมาเผาผลาญแล้ว
8. หากทำตามนี้อย่างเคร่งครัด ท่านสามาถลดน้ำหนักได้ 1-1.5 กก. เป็นอย่างต่ำ สัดส่วน รอบเอว ต้นขา
หน้าท้องจะลดลง ( คนน้ำหนักมากจะมีโอกาสลดได้มากกว่าคนน้ำหนักปกติ )
9. หากได้ออกกำลังกายด้วยจะลดได้เร็วมากขึ้น กล้ามเนื้อแข็งแรง
10. ท่านสามาถทานวิตามินเสริมได้ เช่น Vitamin C 1000 Mg., B1-6-12, Chromium Picolinate
เป็นต้น ร่วมด้วยก็ได้
11. รับประทานอาหารแต่ละมื้อจนอิ่ม และอย่าทานหากไม่ได้รู้สึกหิว ถ้าหิวระหว่างมื้อก็ให้ทานประเภท
ไส้กรอก แฮม Salami หรือ Assorted Cheese เป็นต้น อย่าปล่อยให้ท้องว่าง
12. ควรหลีกเลี่ยง ไดเอทโค้ก หรือ ไดเอท เปปซี่ และน้ำตาลเทียมให้มาก ลูกอม ท๊อฟฟี่ ต้องงด

Dr. Atkins บอกไว้ว่า สิ่งที่อันตรายมากที่สุดสำหรับคนที่มี ปัญหากับ metabolism คือ แป้งและน้ำตาล
ยิ่งกินแป้งน้ำตาลมาก อัตราการเผาผลาญก็จะยิ่งช้า ทำให้อ้วนนะคะ ฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำก่อนคือ
" ทำให้ร่างกายเปลี่ยนจากการใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต มาเป็นใช้ไขมันแทน "

แกงจืดเห็ด (เพื่อสุขภาพ)

เห็ด นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ทำแกงจีด ต้มยำ ผัดเห็ด ยำเห็ด ข้าวต้ม ฯลฯ เห็ดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น เห็ดหูหนู เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า เห็ดเหล่านี้นับว่ามีคุณค่าทางโภชนาการ มีประโยชน์ต่อร่างกาย เราเป็นอย่างมาก ธาตุอาหาร มีอยู่ในเห็ด โดยรวมแล้วก็จะมี สารอาหารประเภท วิตามินเอ วิตามินบี2 น้ำ โปรตีน ฯลฯ นอกจากนี้เห็ดยังมีคุณสมบัติป้องกันโรคกระดูกอ่อน ใช้บำรุงสำหรับคนมีโลหิตน้อย เป็นยาอายุวัฒนะ บรรเทาอาการไข้หวัด ลดไขมันในเส้นเลือดได้ แต่เห็ดนั้นก็ยังมีผลเสียคือ ถ้าเกิดกินเห็ดพิษเข้าไป ก็อาจจะต้องเสียชีวิตได้ และคนที่เป็นอีสุกอีใสก็ ห้ามกินเห็ดทุกชนิด ดังนั้นจึงควรเลือกกินเห็ดอย่างระวัง



ส่วนประกอบ

1. รากผักชี

2. กระเทียม

3. พริกไทย

4. แตงกวา

5. เห็ดหอม

6. หอมใหญ่

7. ซีอิ้วขาว

8. ตั้งฉ่าย

9. พุทธาจีน


วิธีทำแกงจืดเห็ด

1. นำ กระเทียม พริกไทย รากผักชี ไปผัดกับน้ำมันให้หอม ใส่ตั้งฉ่ายลงไป

2. ตักส่วนผสมที่ผัดไว้แล้วใส่หม้อ เติมน้ำร้อนพอประมาณ ใส่พุทธาจีน ที่คว้านเอาเมล็ดออก ต้มสักพักหนึ่ง

3. พอเดือด ใส่เห็ดหอมที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงไป ถ้ามีเห็ดหูหนูดำก็ใส่ลงไปด้วย

4. นำหอมใหญ่ (หั่น 4 ส่วน) ใส่ลงไป พร้อมกับใส่แตงกวา

5. ชิมรสชาติและปรุงรสตามชอบ และรอให้น้ำเดือดจึงยกลง



สรรพคุณของอาหารจานนี้คือ

รากผักชี จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ถอนพิษ และบำรุงกระเพาะอาหาร

กระเทียม บำรงกระเพาะอาหาร ระงับไอ ขจัดเสมหะ ป้องกันท้องอืด แก้โรคหลอดเลือดอุดตัน

แตงกวา มีวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี แก้ร้อนใน รักษาอาการไอ ขับปัสสาวะ

เห็ดหอม แก้อาเจียน ป้องกันโรดเลือดแข็งตัว แก้ขัดเบา แก้มะเร็งในกระเพาะอาหาร

เห็ดหูหนูดำ ช่วยลดความดันโลหิต มีสารต้านมะเร็ง มีวิตามินช่วยในการดูดซึม

พุทธาจีน แก้ผอมแห้งแรงน้อย แก้อาการนอนไม่หลับ แก้โลหิตจาง


วิธีเผาผลาญเมื่อกินเกินพิกัด

การอยากมีหุ่นสวย หลายคนจึงระมัดระวังการรับประทานอาหารเป็นพิเศษ แต่หากในคืนปาร์ตี้ที่เผลอทานเยอะจนเกินพิกัดก็ไม่ต้องกังวล มีวิธีเผาผลาญไขมันมาฝาก


ดื่มน้ำส้มคั้นสด มีวิตามินที่ช่วยดูดซึมสารอาหารที่สำคัญ หากรับประทานเป็นผล จะมีเส้นใยธรรมชาติ ช่วยคุมน้ำหนักได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว

ทานอาหารจำพวกธัญพืช (ชนิดไขมันต่ำ) อาจทานตอนเช้า (หากไม่มีเวลาทานข้าว) ธัญพืชเหล่านี้ อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ระบบจะย่อยช้า ๆ เข้าสู่ร่างกาย ทำให้รู้สึกอิ่มท้องนาน

เคลื่อนไหวร่างกาย หลังเลิกงานอาจเรียกเหงื่อด้วยการเดินเล่น หรือวิ่ง หากมีเวลาอาจเล่นกีฬาที่ชอบสักครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง (การเคลื่อนไหวเร็ว ๆ จะเผาผลาญได้ 140 แคลอรีในครึ่งชั่วโมง)

เคี้ยวอาหารช้า ๆ เพราะการทานเร็ว จะทำให้ทานมากเกินอัตราโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารหลัง 6 โมงเย็น หรือช่วงเวลากลางคืน

ทานผัก-ผลไม้ เพราะผักจะให้พลังงานน้อย แต่ให้สารอาหารมาก ส่วนผลไม้ เลือกทานที่ให้พลังงานต่ำ เช่น ฝรั่ง มะม่วง ชมพู่ แตงโม แคนตาลูป เลี่ยงผลไม้หวานจัด ให้พลังงานสูง


เคล็ดลับง่ายๆ ช่วยคุณ กำจัดไขมันส่วนเกินได้ หากปฏิบัติเป็นประจำ ก็ไม่ต้องกังวลมากนัก

ที่มา สยามดารา

สวยแบบประหยัด

ใครที่อยากสวย แต่ไม่อยากเสียเงินแพง ๆ วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีเคล็ดลับในการสวยแบบประหยัดมาฝาก...

- ผลไม้มาร์คหน้า

การนำผลไม้ที่รับประทานเป็นประจำมามาร์คหน้า คือการประหยัดและยังช่วยในการดูแลผิวแบบธรรมชาติ ผลไม้หลาย ๆ ประเภท จะมีสารสกัดที่ดีต่อผิว เช่น ผลไม้ไม้เปรี้ยว ๆ อย่าง สับปะรด, มะม่วงสุก, มะเฟือง, ส้ม ฯลฯ ที่มีกรดผลไม้ที่ดีต่อการทำให้ผิวขาวใส เรียบเนียน ขอแนะนำว่าควรผสมอย่างอื่นเพื่อลดความเป็นกรดลงด้วย เช่น โยเกิร์ตหรือน้ำผึ้ง

- สครับริมฝีปาก

ริมฝีปากที่นุ่ม ชุ่มชื่นทำให้ดูดีขึ้น วิธีประหยัด คือ การนำกระวานป่น 1 ช้อนชา มาขัดริมฝีปากหลังล้างหน้า ถึงแม้จะมีรสเผ็ด แต่ได้ผลดีต่อริมฝีปาก จากนั้นล้างออกแล้วบำรุงด้วยลิปบาล์มอีกครั้ง

- อบไอน้ำสมุนไพร

อบไอน้ำแบบประหยัด คือ นำใบมะกรูด ข่า ขิง มะนาว มาต้มในหม้อให้พออุ่น จากนั้นวางพักในจุดที่พอก้มหน้าให้ไอร้อนสัมผัสผิวได้อ่อน ๆ หรืออาจนำผ้ามาคลุมศีรษะและหม้อน้ำให้ไอน้ำไม่ระเหยเร็วก็ได้ ความร้อนและสมุนไพร จะช่วยเปิดรูขุมขนและดีท็อกซ์ให้ผิวหน้าให้สะอาดสดใส จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับผิวอีกรอบ

- ผลไม้เพื่อผมสวย

ลองนำ กล้วยน้ำว้า แตงโม น้ำส้ม และน้ำมะกรูด มาบดผสมรวมกัน แล้วนำมาหมักเส้นผมทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก จะทำให้เส้นผมมีได้กลิ่นหอม ๆ จากผลไม้แล้ว ยังทำให้เส้นผมได้รับคุณค่าบำรุงใหม่ ๆ อีกด้วย

ถ้าอยากสวยแบบประหยัด ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้.

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์